คุณสมบัติริบบอน ผ้าหมึก (Ribbon Barcode)

ริบบอน หรือผ้าหมึกต้องใช้คู่กับสติ๊กเกอร์เพื่อใช้พิมพ์กับบาร์โค้ด ฉลาก ป้ายสินค้า สามารถพิมพ์ใส่โลโก้ และใส่ชื่อบริษัท กับองค์กรต่าง ๆ ได้ รวมถึงระบุน้ำหนัก และวันหมดอายุได้  รวมถึงการพิมพ์แบบรันนัมเบอร์ได้ โดยที่ริบบอนจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ และคุณสมบัติของริบบอน หรือผ้าหมึกจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน และความพอใจของลูกค้า ข้อแตกต่างในการเลือกใช้งานริบบอน มีดังนี้

1). Ribbon Wax เป็นหมึกพิมพ์ริบบอนสำหรับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด หรือ Printer Barcode เหมาะกับสติ๊กเกอร์ธรรมดา สติ๊กเกอร์กึ่งมันกึ่งด้าน สติ๊กเกอร์อาร์ตมัน สามารถประยุกต์ใช้กับงานพิมพ์ป้ายชื่อ ป้ายราคา พิมพ์สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดติดสินค้าได้หลากหลาย ตามความต้องการของลูกค้า ริบบอนชนิดนี้มีส่วนผสมของแว็กซ์มากกว่าชนิดอื่น จึงมีคุณสมบัติแตกต่างออกไป ดังนี้

– ราคาถูกที่สุด ช่วยลดต้นทุนในการซื้อสินค้า

– ใช้ความร้อนในการพิมพ์ต่ำ ทำให้ความร้อนของหัวพิมพ์ลดลง ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของหัวพิมพ์

– พิมพ์งานได้ดีมีความคมชัด

– ไม่ค่อยทนทานต่อการขูดขีด ใช้งานได้ดีในอุณหภูมิปกติ ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับงานบาร์โค้ดสินค้าทั่วไปที่มีการขายเปลี่ยนมือรวดเร็ว เช่น ฉลากติดอาหารสดและผักผลไม้ ไม่เหมาะติดสินค้าที่มีการเสียดสีกัน

 

2). Ribbon Resin เป็นริบบอนที่มีทนทานต่อการขูดขีด ไม่หลุดลอก มักนิยมใช้กันในงานพิมพ์ติดบนวัสดุพื้นผิวมันวาว เช่น BOPP, FOIL, LAMINATE, POLY, PP WHITE VOID และ UPO เหมาะสำหรับการพิมพ์สติ๊กเกอร์ บาร์โค้ด พีวีซี ติดฉลากบนสินค้าที่มีความทนทาน เช่น แกลลอนน้ำมัน เครื่องใช้ไฟฟ้า และฉลากรับประกันคุณภาพสินค้าที่มีการรับประกันยาวนาน มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้

– ราคาค่อนข้างสูง

– มีคุณสมบัติคือยึดติดพื้นผิวได้ดี มีความคมชัดและสวยงาม พิมพ์แล้วติดทนนานกว่าทุกชนิด เหมาะกับสติ๊กเกอร์เนื้อพิเศษที่มีผิวเรียบและมันวาว

– เนื้อสติ๊กเกอร์เป็นพลาสติก PVC มีทั้งแบบใสและสีขาว ใช้งานได้หลอกหลายแบบ ทนต่อการฉีกขาด ทนต่อรอยขีดข่วน ทนต่อความร้อน กันน้ำ ทนแสงแดดและความร้อนได้ดี เหมาะกับการนำไปใช้ในงานเครื่องสำอาง สินค้าในห้องเย็น ฉลากรับประกันสินค้าอายุการใช้งานนานกว่า 5 ปี

– เนื้อสติ๊กเกอร์เป็นพลาสติก PE, PP มีทั้งแบบใส และสีขาว เนื้อเป็นวัสดุเหนียว ทนทาน ฉีกขาดยาก เหมาะสำหรับติดฉลากสินค้าที่อยู่ในห้องเย็นใช้ในอุณหภูมิติดลบ เหมาะกับการนำไปใช้งานสินค้าแช่แข็ง หรือยาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิเย็น

– เนื้อพลาสติกเป็น โพลีเอสเตอร์ PET มีแบบสีขาว และสีเงิน เนื้อวัสดุเหนียว แข็งแรง ทนทาน

– ใช้งานได้ดีในอุณหภูมิสูง ทนความร้อนสูง เช่น ติดฉลากที่อะไหล่ยนต์ หม้อน้ำรถยนต์

– ทนทานความร้อน และสารเคมี เหมาะกับงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น รถยนต์ ปิโตรเลียม เคมี ฉลากสินค้าที่มีสารเคมีและต้องโดนน้ำ ผลิตภัณฑ์และของใช้ในห้องน้ำ สินค้าในห้องเย็น

 

3). Ribbon Wax/Resin เป็นริบบอนเป็นเนื้อที่ผสมระหว่างแว็กซ์ กับเรซิน เหมาะกับงานพิมพ์บนกระดาษผิวมัน เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษเคลือบฟิล์มพลาสติก (BOPP) กระดาษยูโป้ (UPO) เนื้อหมึกมีคุณภาพสูง ยึดติดกับพื้นผิวได้ดี พิมพ์แล้วติดทนนานและทนต่อรอยขูดขีดกว่าริบบอนแบบแว็กซ์ธรรมดา นิยมไปใช้ในงานพิมพ์อุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำระหว่าง 0 ถึง -40 องศา มีคุณสมบัติแตกต่างออกไป ดังนี้

– ราคาไม่แพง ใกล้เคียงกับราคาริบบอนแบบแว็กซ์

– มีความคมชัดสูง การพิมพ์สวยงาม มีความคมชัด ทนทานต่อการขูดขีดในระดับหนึ่ง

– ทนความชื้นได้ดี ส่วนมากนิยมใช้ในงานพิมพ์ในอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำระหว่าง 0 ถึงติดลบ -40 องศา

– ติดทนทานมาก เหมาะสำหรับงานพิมพ์บาร์โค้ดบนสินค้าที่ใช้เป็นเวลานาน

 

ในเรื่องของริบบอน หรือผ้าหมึก (Ribbon) และสติ๊กเกอร์มีให้เลือกมากมายในท้องตลาด โดยทั่วไปนิยมใช้ริบบอนแบบแว็กซ์ด้วยเหตุผลที่มีราคาถูกช่วยลดต้นทุน และช่วยถนอมหัวพิมพ์ เพื่อจะประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ดี ริบบอนแต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมของสารเคมีไม่เหมือนกัน มีข้อแตกต่างในการเลือกใช้งาน เพื่อให้คุณภาพของการพิมพ์มีความสวยคมชัด มีความทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย ยึดติดกับพื้นผิวได้ดี กันน้ำ ทนความร้อน จึงควรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสม และถูกต้องตามลักษณะการใช้งานของลูกค้า

การประยุกต์ใช้ริบบอนบาร์โค้ดในวงการต่างๆ

ริบบอนบาร์โค้ด คือผ้าหมึกพิมพ์บาร์โค้ด ที่สามารถจำแนกได้ 3 ประเภท

 

  1. Wax ribbon 2. Resin ribbon  3. Wax resin ribbon  ข้อแตกต่างในการเลือกใช้งาน Wax ribbon ที่เหมาะกับกระดาษแบบธรรมดา เช่น TTR และ TAG เป็นต้น ใช้ในการติดบาร์โค้ดในสินค้าทั่วไป ส่วนลักษณะที่นำไปใช้คือเป็นหมึกพิมพ์สำหรับเครื่องพิมพ์ตัวบาร์โค้ด แบบ wax ribbon มาประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ได้ดังนี้ การพิมพ์สติ๊กเกอร์ในกระดาษธรรมดา กระดาษกึ่งมันกึ่งด้าน ป้ายกระดาษ และเหมาะที่สุดสำหรับพิมพ์บนสติ๊กเกอร์บาร์โค้ดเนื้อกึ่งมันกึ่งด้าน ได้งานพิมพ์ที่ดำ-เงา สวยงาม แต่จะไม่ทนความร้อน ต่อแรงขูดขีด ความเย็นและความชื้นอีกด้วย

ริบบอนบาร์โค้ด ที่ราคาถูกนั้นสามารถใช้ได้หลากหลายกับงานบาร์โค้ดอุตสาหกรรมทั่วไป เครื่องพิมพ์สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด ที่เหมาะกับ wax ribbon ใช้ได้ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ เนื้อริบบอนมีทั้ง free in/free out สามารถใช้ได้กับในทุกยี่ห้อ Resin ribbon เป็นริบบอนที่เหมาะกับสติ๊กเกอร์บาร์โค้ดเนื้อ POLY หรือ LAMINATE เป็นต้น ซึ่งเป็นริบบอนที่ทนต่อการขูดขีดไม่หลุดลอก ทนต่อสภาพสารเคมีได้ดีที่สุด

    ลักษณะการใช้งานของหมึกพิมพ์ริบบอนสำหรับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดชนิดนี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานต่าง ๆ ได้ดังนี้ การพิมพ์สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดเนื้อกระดาษทั่วไป ในอุณหภูมิปกติมีคุณสมบัติเกาะพื้นผิวสติ๊กเกอร์ที่มีผิวเรียบมันมีความมันวาวสูง ทนต่อความร้อน กันน้ำและกันความชื้นได้ดี ไม่หลุดลอกสามารถคงทนอยู่ได้นานหลายปี เหมาะใช้ในงานด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ พิมพ์ฉลากเสื้อผ้า ฉลากรับประกันสินค้า และอีกหลากหลายกับสินค้าทั่วไป ซึ่งราคาของเรซิ่นริบบอนนั้นจึงมีราคาที่สูงตามไปด้วย ส่วน Wax resin ribbon เป็นริบบอนที่มีเนื้อผสมระหว่าง wax และ resin ที่เหมาะกับการพิมพ์บนกระดาษที่มีพื้นผิวมัน

    ส่วนลักษณะงานที่ใช้กับหมึกพิมพ์สำหรับหมึกพิมพ์ชนิดนี้ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานต่าง ๆ ได้คือ งานพิมพ์บนกระดาษผิวมัน สามารถยึดติดกับพื้นผิวได้ดีกว่าแบบ wax ribbon เหมาะกับสติ๊กเกอร์เนื้อ ART PAPER,BOPP และ UPO เหมาะกับการพิมพ์ที่ต้องการหมึกที่ติดทนนานยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งานในด้านอุตสาหกรรม จะใช้ในประเภทห้องเย็น ห้องแช่แข็งไอศกรีม ที่ไม่หลุดลอก สามารถทนความชื้นและความเย็นได้อุณหภูมิ 0 ถึง -40 องศา

    ริบบอนบาร์โค้ด ทั้ง 3 ประเภทนี้ สามารถใช้ได้กับขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ได้ทุกยี่ห้อ ตามความเหมาะสมของธุรกิจนั้น ๆ และมีความหลากหลายในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท อุตสาหกรรม ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลาในการทำงาน ซึ่งสิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือคุณสมบัติของริบบอนตรงพื้นผิวด้านหลังของริบบอน ต้องสามารถยืดอายุหัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดอีกด้วย

Ribbon resin แตกต่างจาก Ribbon wax อย่าง ไร?

ribbon resin แตกต่างจาก ribbon wax อย่างไร?

การพิมพ์ฉลากสำหรับติดสินค้าที่มีบาร์โค้ด นอกจากจะเลือกเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดหรือ Printer Barcode ที่มีความสามารถพิมพ์บาร์โค้ดได้อย่างชัดเจนแล้ว การเลือก หมึกพิมพ์บาร์โค้ด หรือริบบอน ที่เหมาะสมก็มีความสำคัญ เพราะคุณสมบัติของริบบอนแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ทั้ง Ribbon Resin และ Ribbon Wax อีกทั้งความทนทานในการขูดขีดและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและอุณหภูมิก็มีความแตกต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อให้ได้คุณภาพของฉลากสินค้าตามที่ต้องการ ควรเลือกชนิดของริบบอนให้เหมาะกับงานที่ใช้ด้วย

เครื่องพิมพ์ Printer Barcode แบบถ่ายโอนความร้อน เป็นเครื่องพิมพ์ฉลากสินค้าและป้ายบาร์โค้ดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถพิมพ์บาร์โค้ดได้ชัดเจน ไม่เสียคุณภาพ และลักษณะการทำงานที่ใช้การถ่ายเทความร้อนผ่านหมึกพิมพ์โดยที่หัวพิมพ์ไม่ต้องสัมผัสกับเนื้อริบบอนโดยตรง จึงทำให้เครื่องพิมพ์มีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้นาน ซึ่งเครื่องพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อนที่ใช้กันในการผลิต นิยมใช้หมึกพิมพ์อยู่ 2 ชนิด คือ Ribbon Wax และ Ribbon Resin ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและเหมาะจะใช้งานกันคนละประเภท

หลายคนอาจสงสัยว่า Ribbon Resin แตกต่างจาก Ribbon Wax อย่างไร? ริบบอนชนิด Wax เป็นริบบอนที่นิยมใช้กันมาก เพราะราคาอยู่ในระดับที่ไม่แพงนัก  และสามารถใช้งานกับสินค้าทั่วๆ ไปได้หลายชนิด  ริบบอนหรือหมึกพิมพ์ชนิดนี้ มีส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ที่มีข้อดีคือมีราคาถูก และสามารถใช้พิมพ์ลงบนพื้นผิวได้หลายชนิด แต่ข้อเสียก็คือฉลากหรือป้ายที่ใช้ Ribbon Wax มักไม่ค่อยทนทานต่อการขูดขีดและสารเคมี

แต่หากต้องการฉลากสินค้าที่มีความทนทานสูง ทนต่อการขูดขีดและความร้อน ต้องเลือก Ribbon Resin ที่มีส่วนประกอบหลักคือ เรซิ่นสังเคราะห์ ซึ่งคุณสมบัติเด่นคือสามารถทนต่อการขูดขีดและสารเคมีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาใช้ในการพิมพ์ฉลากรับประกันสินค้า ,สินค้าอุตสาหกรรม,ฉลากยา และบาร์โค้ดติดสินค้าที่ต้องการความทนทาน ไม่ลบเลือนหรือถูกทำลายง่าย ๆ อีกทั้ง Ribbon Resin ยังสามารถใช้ได้กับเนื้อสติ๊กเกอร์ทุกประเภท

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ Ribbon Resin คือมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและความทนทานแล้ว นับว่ามีความเหมาะสมในการใช้งาน โดยเฉพาะฉลากสินค้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ป้ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและสิ่งทอ,วัสดุเคลือบเงาอย่างโพลีเอสเตอร์ เช่น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง,ป้ายไวนิลสำหรับโฆษณา ที่มีโอกาสถูกแสงแดดและความชื้นอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงฉลากยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ต้องการความคมชัดของรายละเอียดเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและไม่ลบเลือนง่าย ๆ แม้ถูกสารเคมีและความร้อน

เมื่อทราบถึงความแตกต่างของริบบอนทั้งสองชนิดแล้ว จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกใช้หมึกพิมพ์ได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพดีเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด