ทำไมทุกร้าน ต้องใช้โปรแกรมขายหน้าร้าน
โปรแกรมขายหน้าร้าน คือ โปรแกรมที่ช่วยเกี่ยวกับงานขายโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรู้ยอดขาย,สต็อกคงเหลือรวมทั้งกำไรในแต่ละช่วงเวลาได้ ดังจะเห็นได้จากร้านค้าสมัยใหม่ จำเป็นต้องมีโปรแกรมขายหน้าร้านทั้งสิ้น เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารร้านค้า ให้มีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน
จากประเด็นข้างต้น ภายใต้การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและรุนแรงมากขึ้น มีบริษัทที่จำหน่ายโปรแกรมขายหน้าร้านหลากหลายให้เลือก โดยบริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมขายหน้าร้าน ต่างทุ่มเทและพัฒนาให้โปรแกรมของตนมีความสามารถมากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการหาซื้อโปรแกรมขายหน้าร้านนี้ ไปใช้ให้ได้มากที่สุด และ ยังทุ่มงบโฆษณาทำการตลาดอย่างมาก เพื่อนำเสนอตัวผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเจาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านมินิมาร์ทและร้านขายปลีกทั่วไป ที่มีความต้องการใช้โปรแกรมขายหน้าร้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตามเทคโนโลยี่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมกำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการแข่งขัน กับ ร้านค้าปลีก สมัยใหม่ ที่เปิดดำเนินการอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการรอคอยการลดราคาสินค้าเพิ่มมากขึ้น และ นิยมการไปซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกสมัยใหม่แทนการซื้อ สินค้าจากร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมเพราะสามารถซื้อสินค้าทุกอย่างที่ต้องการได้จากร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงราคา จำหน่ายของสินค้าที่ถูกกว่าร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม พฤติกรรมของผู้บริโภคดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อกำไรและเป็นการทำลายผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ดำเนินธุรกิจในตลาด
ธุรกิจประเภทค้าปลีกมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ร้านค้าปลีกจึงต้องใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจของตนอยู่รอด อย่างไรก็ตามการที่ธุรกิจการค้าปลีกจะประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ประกอบการควรจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการค้าปลีก ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการค้าปลีก รวมถึงการจัดทำผังบัญชี เพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจดำเนินกิจการค้าปลีกได้อย่างเหมาะสมและประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง
ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก การเปิดเสรีทางการค้าและการเงินของประเทศไทยทำให้มีการลงทุนของต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างชาติมีบุคลากรที่มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ ๆ รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการบริหารงานและศักยภาพในการแข่งขันที่สูงกว่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการชาวไทยขนาดกลางและขนาดเล็กไม่สามารถแข่งขันได้
ในอดีตการจับจ่ายใช้สอยในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้บริโภคจะมุ่งตรงไปยังร้านค้าปลีกในรูปห้องแถว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ใกล้แหล่งชุมชนและที่พักอาศัย เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปจากการค้าแบบเดิมมาสู่ยุคไฮเทค พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปตามมาตรฐานการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนเมืองหรือคนในชนบทเริ่มดีขึ้น ผู้บริโภคมีความรู้และมีโอกาสรับรู้ข่าวสารข้อมูลได้มากขึ้น ผู้บริโภคเริ่มต้องการการบริการและสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ต้องการความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกเริ่มตั้งแต่ร้านโชวห่วยเก่า ๆ ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านมินิมาร์ท ร้านคอนวีเนียนสโตร์หรือร้านสะดวกซื้อในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่าร้านค้าปลีกต้องมีการปรับตัวให้ต่อสู้กับการแข่งขันกับร้านค้าสมัยใหม่อย่างมาก เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการต่อสู้กับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ คือ โปรแกรมขายหน้าร้าน ดังจะเห็นได้ว่าทุกร้านค้าในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เรารู้ ความเคลื่อนไหวต่างๆภายในกิจการของเรา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าขายอะไรไปบ้าง จะไม่สามารถดูสต็อกได้ทันที และที่สำคัญไม่ทราบว่ากิจการของเรา กำไรหรือขาดทุน เกิดการรั่วไหลของสินค้าและการทุจริตของแคชเชียร์เกิดขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการไม่สามารถเช็คได้
ร้านค้าส่วนใหญ่ เมื่อเปิดกิจการใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่การตบแต่งร้านให้สวยงาม ทันสมัย โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะหมดไปกับการตบแต่งหมด โดยไม่ให้ความสำคัญของระบบเก็บเงินหน้าร้าน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดในร้าน ทำให้เมื่อขายไประยะหนึ่ง จะเกิดปัญหาเรื่องของขาด และ ของหาย และ ปัญหาเรื่องการเงินจะตามมา เพราะร้านไม่มีข้อมูลในการบริหาร ไม่สามารถวางแผนต่างๆได้เช่น การวางแผนสต็อก การวางแผนการตลาดและวางแผนการเงิน ทำให้ผู้ประกอบการใหม่ ส่วนใหญ่จะไปไม่รอดด้วยเหตุนี้